โปรดจำไว้ว่า การที่ลูกจ้างคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนจะถูกเลิกจ้างเพราะบริษัทนายจ้างขาดทุนนั้น ไม่ถือว่าเหตุแห่งการเลิกจ้างนั้น เกิดจากตัวลูกจ้างโดยตรง ลูกจ้างคนดังกล่าวไม่ได้มีความผิดใด ๆ ดังนั้น การที่นายจ้างจะคัดเลือกลูกจ้างคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นบุคคลที่ถูกเลิกจ้างนั้น นายจ้างจะต้องมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกลูกจ้างที่ไม่เลือกปฏิบัติ มีเหตุผล เป็นธรรม และได้แจ้งให้ลูกจ้างทราบก่อนล่วงหน้าด้วย เช่น ใช้หลักเกณฑ์ดูจากการขาด ลา มา สาย หรือเลือกเลิกจ้างที่มีอายุงานน้อยก่อนเลิกจ้างลูกจ้างที่มีอายุงานมาก เป็นต้น
นอกจากนี้ ก่อนที่นายจ้างจะใช้สิทธิเลิกจ้าง นายจ้างควรที่จะหามาตรการที่เหมาะสมและเป็นธรรมมาแก้ปัญหาก่อน เช่น ลดวัน ชั่วโมงการทำงาน ลดค่าล่วงทำงานล่วงเวลา เป็นต้น
การปรับโครงสร้างองค์กรของนายจ้าง โดยลดจำนวนลูกจ้างลงนั้นจะต้องมาจากเหตุขาดทุนและจะต้องถึงขนาดที่หากไม่ลดจำนวนลูกจ้าง กิจการของนายจ้างจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ และการปรับลดจำนวนลูกจ้างนั้นจะต้องเป็นผลโดยตรงที่ช่วยให้กิจการของนายจ้างอยู่รอดหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้
การขาดทุนกำไร หรือการที่นายจ้างกำไรมาตลอด มีกำไรสะสม แม้ปีต่อมา นายจ้างจะขาดทุนอยู่บ้าง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะอ้างเป็นเหตุเลิกจ้างลูกจ้างในกรณีนี้ได้
กรณีที่นายจ้างยุบตำแหน่งบางตำแหน่งลง หรือยุบแผนกทั้งแผนกอันเนื่องมาจากการปรับโครงสร้างองค์กร จึงจำต้องเลิกจ้างลูกจ้าง ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม แต่หากปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังว่า นายจ้างรับคนอื่นเข้ามาทำงานแทนลูกจ้าง การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
หลักเกณฑ์ที่ผู้เขียนได้กล่าวมานี้ ผู้เขียนได้เรียบเรียงมาจากแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ได้วางบรรทัดฐานเกี่ยวการเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่ กรณีที่นายจ้างประสบกับภาวะขาดทุนไว้ว่าจะต้องพิจารณาอย่างไร ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกลูกจ้างที่จะถูกเลิกจ้าง เนื่องจากเสียลูกจ้างที่มีผลการทำงานที่ดีและอยากเก็บไว้ และหาทางเลิกจ้างลูกจ้างที่ผลการทำงานที่ไม่ดีออกไปแทน ซึ่งหากกระทำเช่นนี้ จะถือว่า เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
. ……………………………………………………………
ความเห็นล่าสุด